NASA แชร์ภาพอันน่าทึ่งของ Solar Flare และผลกระทบที่มี

NASA หน่วยงานอวกาศของอเมริกาเมื่อวันอาทิตย์ จับภาพช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์ปล่อยพลังงาน

อันทรงพลังออกสู่อวกาศ เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม องค์การการบินและอวกาศแห่งา(NationalAeronauticsandSpaceAdministration) ได้แจ้งไปยัง Instagram ว่า “เปลวไฟจากแสงอาทิตย์ที่รุนแรง” ได้ปะทุขึ้นจากดวงอาทิตย์ และ Solar Dynamic Observatory ของ NASA ซึ่งเฝ้าดูดวงอาทิตย์อยู่ตลอดเวลา ก็สามารถจับภาพเหตุการณ์ได้

“ฉันชอบเปลวไฟของคุณ ดวงอาทิตย์ไม่ได้อยู่นิ่งบนท้องฟ้า ดาวฤกษ์ใกล้เคียงของเราเป็นวัตถุที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และสร้างเหตุการณ์สภาพอากาศในอวกาศ เช่น เปลวสุริยะที่ถ่ายโดย Solar Dynamics Observatory (SDO) ของ @nasasolarsystem เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 2, 2022” คำบรรยายของโพสต์อ่าน

ลองดูด้านล่าง:เปลวสุริยะเป็นการแผ่รังสีที่รุนแรงซึ่งมาจากการปล่อยพลังงานแม่เหล็กบนพื้นผิวของดวงอาทิตย์ เปลวไฟและการระเบิดของดวงอาทิตย์เหล่านี้สามารถส่งผลกระทบต่อการสื่อสารทางวิทยุ กริดพลังงานไฟฟ้า GPS และยังอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อยานอวกาศและนักบินอวกาศ

“ในภาพนี้ พวกมัน (เปลวสุริยะ) นั้นสามารถสังเกตได้ว่าเป็นบริเวณที่สว่างที่สุดของดวงอาทิตย์ และสามารถอยู่ได้นานหลายนาทีถึงหลายชั่วโมง” NASA เขียนไว้ในคำบรรยายใต้ภาพ

นอกจากนี้ หน่วยงานด้านอวกาศยังระบุด้วยว่าได้จำแนกเปลวไฟจากดวงอาทิตย์ในวันที่ 2 ตุลาคมว่าเป็น “เปลวไฟ X1” NASA อธิบาย “ระดับ X หมายถึงเปลวไฟที่รุนแรงที่สุด ในขณะที่จำนวนที่ถึงเก้า จะให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความแรงของมัน”อ่านเพิ่มเติม | Nicole Aunapu Mann กลายเป็นผู้หญิงอเมริกันพื้นเมืองคนแรกในอวกาศ

ในขณะเดียวกัน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ดวงอาทิตย์ถูกจับได้ว่าปล่อยพลังงานอันทรงพลังออกสู่อวกาศ ย้อนกลับไปในเดือนเมษายน NASA ยังสามารถจับภาพเปลวไฟจากแสงอาทิตย์ได้โดยใช้ Solar Dynamics Observatory ในเดือนเดียวกัน CESSI ซึ่งเป็นศูนย์ความเป็นเลิศด้านวิทยาศาสตร์อวกาศ (อินเดีย) รายงานว่ามีเปลวไฟจากแสงอาทิตย์ที่อาจเป็นอันตรายซึ่งสามารถขัดขวางการสื่อสารผ่านดาวเทียมและระบบกำหนดตำแหน่งทั่วโลก

แสดงความคิดเห็นเปลวสุริยะเองไม่ได้ส่งผลกระทบในทางลบต่อมนุษย์ แต่สามารถทำให้เกิดความหายนะต่อเทคโนโลยีได้เนื่องจากการปลดปล่อยพลังงานแม่เหล็ก

 

 

Releated